วันอังคารที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ประวัติพระจีน





ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ พระจีน

 ในยุคสมัยถังไท่จง มีบันฑิต 5 คนเดินทางจากทางใต้ไปสอบที่เมืองหลวง แต่สอบไม่ได้ ต่อมาจึงกลายเป็นวณิพกและเล่นดนตรีอยู่ในเมืองฉางอาน พระเจ้าถังไท้จงทรงทราบเรื่องจึงมีบัญชาให้รับบัณฑิตทั้ง 5 เข้าวัง และเนื่องจากพระองค์ทรงต้องการทดสอบให้แน่รีอยู่ในห้องใต้ดิน และด้วยการเข้าใจผิดเตียวหู้เทียนซือจึงฆ่าบัณฑิตทั้ง 5 ตาย ฮ่องเต้ทรงเสียพระทัยมากจึงได้ยกย่องให้ทั้ง 5 เป็นเทพเจ้า กาลต่อมาจากจำนวน 5 ก็เล่าขานกลายเป็นว่า ทั้งหมดมี 360 คน ทั้งหมดเป็นข้าราชการ มีตำแหน่งจิ้นซือทั้งสิ้น กำลังบรรเลงดนตรีอยู่ในห้องใต้ดิน ถูกเตียวหู้เทียนซือฆ่าตายหมดด้วยความเข้าใจผิด ทั้งหมดจึงได้รับการยกย่องเป็นเทพเพื่อกราบไหว้จิ้นซือทั้ง 360 คน แต่บางตำนานบอกว่าทั้ง 360 คนถูกลงโทษโดยไม่มีความผิดอะไรหรือถูกประหารชีวิต หรือตายเพราะเรืออับปาง เช่น ในสมัยราชวงศ์หมิงมีจิ้นซือทั้ง 360 คน แล่นเรือออกไปสู่ทะเลเพื่อช่วยขจัดโรคระบาด เกิดพายุเรือคว่ำตายหมดทั้งลำเรือ เนื่องจากมีความดีความชอบ ฮ่องเต้จึงทรงโปรดให้สร้างศาลไว้เพื่อกราบไหว้และยกย่องให้เป็นอ๋องเอี๋ย นอกจากนี้ยังมีตำนานว่าจิ้นซือเหล่านี้มีความจงรักภักดีต่อฮ่องเต้มาก ยอมฆ่าตัวตายดีกว่าตกเป็นทาสของศัตรู การกระทำเช่นนี้ถือว่าสละชีพเพื่อชาติ บางตำนานก็กล่าวในลักษณะที่ว่าเป็นการสละชีพเพื่อส่วนรวม เช่นเมื่อมีโรคระบาดมีผู้กล้าหาญกระโดดลงไปดูดพิษจากบ่อน้ำในหมู่บ้านนั้นๆ เพื่อเป็นการขจัดโรคระบาด ผู้ตายจากสาเหตุดังที่กล่าวนานัปการ จึงทำให้บุคคลเหล่านี้กลายเป็นเทพแห่งโรคระบาด(อุ่นสิน)ในที่สุด ถึงแม้จะมีเทพกลุ่มนี้รวมทั้งสิ้น 360 คน แต่ปรากฏว่าได้รับการกราบไหว้เพียง 132 แซ่เท่านั้น โดยหน้าที่ทั่วไปเทพระบาดคือช่วยฮ่องเต้ตรวจตราดูแลความทุกข์สุขของประชาชน ช่วยขจัดโรคร้ายต่างๆ และช่วยพระยกอ๋องส่งเต่(เง็กเซียนฮ่องเต้)ดูแลความทุกข์สุขของมวลมนุษย์ เทพระบาดเป็นผู้ที่มีอิทธิฤทธิ์มากดังนั้นจึงมักลงท้ายด้วยอ๋องเอี๋ย เมื่อต้องการเน้นให้รู้ว่ามีอิทธิฤทธิ์มากจึงเป็นเชียนโส่ยเอี๋ย หรือเชียนโส่ยอ๋องเอี๋ย นอกนั้นก็มีผู้เรียก อุ่นอ๋อง อ๋องกองไต่หยิน ไต่อ๋อง เป็นต้น เนื่องจากเป็นกลุ่มเทพที่รับใช้เบื้องบน ตรวจตราทุกข์สุขอาณาประชาราษฎร์จึงเรียกว่า ต่ายเที้ยนซุนซิ่ว หรือไต่จ่องซุน
        ในสมัยก่อนในมณฑลฮกเกี้ยนจะมีพิธีกราบไหว้ 3 ปี หรือ 12 ปีครั้ง ในโอกาสนี้เมื่อทำพิธีเรียบร้อยจะมีการนำไม้ไปสลักเป็นรูปกิมซิ้นของพระองค์ต่างๆ พร้อมทั้งเขียนชื่อแซ่ทั้งหมด พร้อมของกินของใช้ใส่ในเรือให้เต็มลำ แล้วนำเรือไปเผาทิ้ง(อิ๋วเที้ยนหอ) เพราะเชื่อว่าโรคระบาดนั้นจะไม่ระบาดที่อื่นๆ บางแห่งนิยมนำเรือลอยไปในทะเลให้ลอยตามน้ำ (อิ๋วเต่หอ) ซึ่งเป็นการส่งโรคระบาดให้ไปไกลๆจากที่อยู่อาศัย เชื่อว่าหากทำพิธีแล้วจะทำให้บ้านเมืองสงบสุขร่มเย็น ในปัจจุบันโรคระบาดมักไม่ปรากฏโดยทั่วไปแล้ว ดังนั้นผู้คนจึงหันมานับถือและบนบานศาลกล่าวในเรื่องทั่วๆไปมากกว่า
           ปกติทั่วไปการตั้งศาลมักจะไม่ได้ตั้งตามชื่อแซ่ทุกท่าน มักจะตั้ง 3 ท่านบ้าง 5 ท่านบ้าง สูงสุด 12 ท่าน ถ้าตั้ง 3 ท่านคนมักจะเรียก ส่ามหู้อ๋องเอี๋ย แซ่ของพระที่เป็นประธานอาจไม่ซ้ำกันแล้วแต่ความนิยมและความ 


 ที่มา  https://youtu.be/dBOkS6PqiX0

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น